" "
บทความ

ผจก.ทีม แอต.มาดริด ที่มีคาแรคเตอร์เด่นที่สุด

กุนซือทีม แอต.มาดริด ที่มีคาแรคเตอร์สุดจัดจ้าน

คาแรคเตอร์ผู้จัดการทีมที่จัดจ้านอย่าง ซิเมโอเน่ ที่ต้องบอกเลยว่าฟุตบอลยุคนี้เนี่ย อาชีพผู้จัดการทีมน่าจะถึงเป็นอาชีพที่อยู่บนความไม่มั่นคงมากที่สุดอาชีพหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าจะมีการเซ็นสัญญากันไว้ 4-5 ปีแต่บางครั้งพอเอาเข้าจริงๆ ก็เห็นว่าสัญญานั้นมันก็พร้อมจะถูกฉีกได้เสมอแต่ในนาทีนี้มีผู้จัดการทีมอยู่คนหนึ่ง ที่สามารถนั่งบนเก้าอี้กุนซือทีมเดียว

แถมเป็นทีมระดับท็อปมายาวนานเกิน 10 ปี แล้วเขายังคงรักษามาตรฐานที่ดีเอาไว้ได้แม้ว่าจะมีช่วงที่ทีมติดขัดเรื่องการเงินก็ตามแน่นอนว่ากุนซือที่ว่านี้ก็คือ ซิเมโอเน่ นั้นเอง ถึงแม้ในหลายๆครั้งเขาจะถูกตราหน้าว่าเป็น อักลี่ ฟุตบอลได้มีแทคติกที่ไม่เคยเล่น โดยเล่นแต่เกมรับ แถมยังนิยมลูกตุกติกตลอดทั้งเกมก็จริง แต่เรื่องของผลลัพธ์ ซิเมโอเน่ได้รับการยกย่องว่า

เป็นชายผู้ยิ่งใหญ่ของแอต.มาดริด จะเป็นก้างขวางคอ บาร์ซ่า กับ เรอัลมาดริด ในลีกได้ยาวนานถึง 10 ปีเลยทีเดียว วันนี้จะมาพูดถึง ซิเมโอเน่ ในสมัยเป็นนักเตะที่เขาค้าแข้งมาหลายสโมสรก็จริงแต่สำหรับ แอต.มาดริด แล้วนี่คือทีมที่เขาลงเล่นเยอะที่สุดและเป็นทีมที่เขารักมากที่สุดด้วยเช่นกันซิเมโอเน่ อยู่กับทีมมี 2 ช่วงเวลาคือในช่วงปี 1994 -1997

และกลับมาอยู่กับทีมอีกครั้งในช่วงปี 2003 ถึง 2005 ก่อนที่เขาจะกลับไปแขวนสตั๊ดแบบเงียบๆกับ ราซิ่งคลับ ทีมในบ้านเกิด และเมื่อเลิกเล่นเขาก็หันมาเอาดีด้านการเป็นโค้ชเต็มตัว ซิเมโอเน่ เก็บประสบการณ์ในแถบละตินอเมริกากับหลายทีมเป็นเวลานานกว่า 5 ปี ก่อนจะตกปากรับคำกลับมาช่วย แอต.มาดริด ตอนปี 2011 โดยเข้ามารับงานกลางซีซั่น

ต่อจากมานซาโน ซึ่งตอนที่เขาเข้ามารับงานนี้ทีมมีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียงไม่กี่แต้มและในถ้วย โกปาเดลเรย์ ก็ดันไปแพ้ให้กับ อัลบาเซเต้ ทีมในลีกดิวิชั่น 3 ของ สเปน อีกด้วยและก่อน ซิเมโอเน่ จะเข้ามานักเตะในทีมที่มีเกมรับยุ่ยเป็นทิชชูเปียกน้ำ เสียประตูเป็นว่าเล่น แล้วก็ต่อกรกับทีมใหญ่ไม่ค่อยได้แต่พอเขาเข้ามาคุมทีมปรากฏว่า 6 นัดเเรก ตราหมีสามารถเก็บคลีนชีตได้ทั้ง 6 นัดซึ่งนั่นเป็นสัญญาณว่า

ทีมกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี และยังเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว หลังจากที่คุมทีมได้ 6 เดือน ซิเมโอเน่ ได้สร้างปาฏิหาริย์ด้วยการพาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ยูโรป้าลีกในฤดูกาล 2011 – 2012 ด้วยการคว้าชัยเหนือ แอธเลติก บิลเบา ไปด้วยสกอร์ 3 – 0 แล้วก็มีพาทีมไปชนะ เชลซี 4-1ในถ้วยยูฟ่าซูปเปอร์คัพ อีกทั้งสามารถชนะคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง

เรอัลมาดริด ในนัดชิงโคปาเดลเรย์ ปีต่อมา 2- 1 จึงทำให้กลายเป็นกุนซือที่ทั้งยุโรปเริ่มหันมาจับตามองเขาเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าหลายๆทีมจะมองเขาว่าเป็นกุนซือที่เล่นตุกติกมากในแต่ละเกม แต่ก็เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับคำพูดเหล่านั้น เพราะว่าเขามองว่าขอเพียงทำให้ทีมของเขาได้เป็นแชมป์เท่านั้นเป็นพอ และแฟนบอลของแอต.มาดริดก็คงคิดเช่นนั้นเหมือนกัน

อ่านเพิ่มเติม ข่าวบอล

@footballmoment