“วาซิเลฟสกี้” จากแข้งแชมป์พรีเมียร์ลีกสู่นักสู้ในกรง

มาร์ซินวาซิเลฟสกี้ชื่อนี้คงคุ้นหูแฟนบอลอยู่บ้างเมื่อดาวเตะชาวโปแลนด์

คือหนึ่งในสมาชิก “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดแชมป์ประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อฤดูกาล 2015-16

 

แต่ล่าสุด ปราการหลังวัย 40 ปี ตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เตรียมผันตัวเองเข้าสู่สังเวียนนักสู้ในกรง วันนี้ Football Moment จะพาไปดูประวัติเรื่องราวของเขากัน

ไต่เต้าจากลีกบ้านเกิดสู่ทีมชั้นนำยุโรป

มาร์ซินวาซิเลฟสกี้เกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ปี ค.ศ.1980 ที่เมืองคราคอฟ เล่นในตำแหน่ง เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เริ่มต้นค้าแข้งกับสโมสรเล็กๆ ในบ้านเกิดอย่าง ฮุทนิค คราคอฟ ก่อนขยับขยายขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดของโปแลนด์ จนกระทั่งได้ไปอยู่กับ เลช พอชนัน เมื่อปี 2006 ด้วยฟอร์มการเล่นอันแข็งแกร่ง วาซิเลฟสกี้ จึงได้โอกาสย้ายไปค้าแข้งต่างแดน ค้ำแนวรับให้กับ อันเดอร์เลชท์ ยอดทีมลีกเบลเยียม เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 2007 ซึ่งที่นั่น เขาถูกโยกไปเล่นเป็นแบ็กขวา จนถูกขนานนามว่าเป็นกองหลังที่เล่นเกมรุกได้อย่างดีเดือด ฤดูกาล 2008-09 วาซิเลฟสกี้ ทำไป 8 ประตู มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ร่วมของสโมสร เท่ากับ กิลเยเม่ ชิลเล่ต์ ซึ่งเล่นในตำแหน่งกองกลาง

แม้ช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2009-10 วาซิเลฟสกี้ ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นกระดูกแตก ในเกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง อันเดอร์เลทช์ กับ สตองดาร์ด ลีแอช จากการโดน อักเซล วิตเซล มิดฟิลด์ตัวรับอัดหนักจนต้องเข้ารับการผ่าตัดกระดูกหน้าแข้งและกระดูกน่องที่แตก ซึ่งภายหลัง อักเซล ก็รับกรรมโดนลีกเบลเยียม สั่งลงโทษแบนไป 8 นัดด้วยกัน ส่วน วาซิเลฟสกี้ ใช้เวลาพักรักษาตัวนานกว่า 9 เดือน ก่อนคัมแบ็กสู่สังเวียนลูกหนังอีกครั้ง เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ปี 2010 

ในปี 2012 วาซิเลฟสกี้ และ วิตเซล โคจรมาพบกันอีกครั้ง ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ อันเดอร์เลชท์ พบกับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ยอดทีมของลีกรัสเซีย โดย วาซิเลฟสกี้ ประกาศชัดว่าจะไม่ขอจับมือกับคู่แข่งที่ทำให้เขาบาดเจ็บหนัก แต่สุดท้าย ด้วยสปิริตนักกีฬาอาชีพอย่างเต็มตัว วาซิเลฟสกี้ ยอมลืมเรื่องราวในอดีต จับมือกับ วิตเซล ทำให้แมตช์การแข่งขันดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของคนสองคน แต่เป็นเกมการแข่งขันที่สู้กันสนุกในสนาม ก่อนที่ เซนิต จะบดเอาชนะ อันเดอร์เลชท์ ไปได้ 1-0

กราฟชีวิตพุ่งสู่จุดสูงสุดในอาชีพค้าแข้ง

หลังประสบความสำเร็จช่วย อันเดอร์เลชท์ เป็นแชมป์ลีก 4 สมัย ก็ถึงเวลาที่ วาซิเลฟสกี้ จะออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ ก่อนได้โอกาสจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ในระดับ เดอะแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ โดยเซ็นสัญญากัน 1 ปี ซึ่งกองหลังเลือดโปล ได้โอกาสลงเล่นในยูนิฟอร์มสีน้ำเงินหนแรก ช่วยให้ เลสเตอร์ บดชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ไปได้ 2-1 ในฟุตบอลถ้วยลีกคัพ รอบสาม เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ปี 2013 ท่ามกลางสักขีพยาน โค้ชทีมเก่าและแฟนๆ อันเดอร์เลชท์ บางส่วนที่อุตส่าห์เดินทางมาให้กำลังใจฮีโร่ขวัญใจคนเดิม 

หลังจากมีส่วนช่วย “จิ้งจอกสยาม” เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลถัดมา วาซิเลฟสกี้ ก็ได้รางวัลเป็นสัญญาฉบับใหม่ โดยเขาสามารถทำประตูได้ด้วยในเกมที่ เลสเตอร์ ซิตี้ พ่ายให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-3 ทำให้ วาซิเลฟสกี้ กลายเป็นนักเตะชาวโปแลนด์รายที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูได้ในพรีเมียร์ลีก ก่อนหน้านั้นก็คือ โรเบิร์ต วอร์ซีชา อดีตกองหน้า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ในยุค 90 

เมื่อเข้าสู่ซีซั่นใหม่ก็ถือเป็นความทรงจำมิรู้ลืมของวาซิเลฟสกี้แม้ได้โอกาสลงสนามให้เลสเตอร์ซิตี้เพียงแค่ 2 นัด แต่ก็ถือว่ามีชื่อเป็นหนึ่งในสมาชิกชุดแชมป์ประวัติศาสตร์ของสโมสร ในฤดูกาล 2015-16 อย่างไรก็ตาม วาซิเลฟสกี้ ไม่ได้เหรียญรางวัลแชมป์มาคล้องคอ  เนื่องจากตามกฎ นักเตะจะต้องลงสนามในพรีเมียร์ลีกอย่างน้อย 5 นัดถึงจะได้เหรียญรางวัล 

ทั้งนี้เบ็ดเสร็จแล้ววาซิเลฟสกี้ลงสนามให้เลสเตอร์ซิตี้ไปทั้งสิ้น 77 นัด ตลอดระยะเวลาค้าแข้งในคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ทั้งสิ้น 4 ฤดูกาล ก่อนที่เขาจะย้ายกลับมาเล่นในลีกบ้านเกิดกับ วิสล่า คราคอฟ ซึ่งกองหลังทีมชาติโปแลนด์ ชุดสู้ศึกยูโร 2008 และ ยูโร 2012 ก็ได้ประกาศแขวนสตั๊ดไปในที่สุดด้วยวัย 40 ปี 

ตามความฝันผันตัวเองสู่นักสู้ในกรง

มาร์ซินวาซิเลฟสกี้เป็นแฟนตัวยงของการต่อสู้แบบ “มิกซ์ มาร์เชียล อาร์ต” หลายครั้งเมื่อว่างเว้นจากภารกิจค้าแข้ง เขามักจะเข้าไปชมศึกมวยกรง MMA อยู่เป็นประจำที่โปแลนด์ 

เมื่อเป็นเช่นนี้มาเตอุสซ์โบเร็คโปรโมเตอร์หัวใสจึงทาบทามให้วาซิเลฟสกี้ขึ้นสังเวียนผ้าใบไปโชว์ศิลปะป้องกันตัวแบบผสมดวลบลาเซจ์ออกุสตินอดีตกองหลังโบลตันวันเดอเรอร์สในลีกลูกหนังอังกฤษและสโมสรฮาร์ทสแห่งศึกสกอตติชพรีเมียร์ลีก 

โดยโบเร็ครู้ดีว่าเส้นทางสายกีฬาของมาร์ซินวาซิเลฟสกี้ยังไม่จบอยู่แค่นี้แน่นอนจึงอยากที่จะดึงนักฟุตบอลรายนี้สู่สังเวียนลูกกรงซึ่งนั่นก็คือความฝันของวาซิเลฟสกี้แฟนๆต่างก็อยากเห็นไฟต์การต่อสู้กันระหว่างวาซิเลฟสกี้กับออกุสตินจึงถือเป็นโอกาสอันดีที่วาซิเลฟสกี้จะขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์อีกครั้งแฟนๆคงต้องอดใจรออีกสักนิดสำหรับกำหนดการขึ้นสังเวียนอย่างเป็นทางการแต่ทั้งนี้วาซิเลฟสกี้กำลังขะมักเขม้นฝึกซ้อมเตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อต่อเติมอีกหนึ่งความฝันให้เป็นจริงเสียที

 

 

ติดตามข่าวสารได้ที่ :: ข่าวฟุตบอล ใหม่สด ทุกวัน

ประวัตินักฟุตบอล :: อ่านประวัตินักฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี